
ศิลปะเมโสโปเตเมีย ทำความรู้จักกับเมโสโปเตเมียว่ามีความเป็นมาอย่างไร ?
ศิลปะเมโสโปเตเมีย โดยเมโสโปเตเมียนั้นเป็นคำของภาษา กรีกซึ่งแปลว่าที่ระหว่างแม่น้ำ เป็นดินแดนที่ชาวกรีกเรียกกัน เมโสโปเตเมียนั้นจะตั้งอยู่บริเวณลุ่มน้ำไทกรีส และยูเฟรตีส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ดินแดนรูปพระจันทร์เสี้ยวที่อุดมสมบูรณ์ เป็นดินแดนที่เป็นรูปครึ่งวงกลมผืนใหญ่ ที่ทอดโค้งขึ้นไปจากฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และอ่าวเปอร์เซีย โดยมีนครหลวงคือกรุงแบกแดด เมโสโปเตเมียนั้นเป็นดินแดนที่อากาศร้อน และแทบจะไม่มีฝน ซึ่งน้ำที่ได้รับส่วนใหญ่นั้นเป็นน้ำจากแม่น้ำที่มาจากการละลายของหิมะ ซึ่งในฤดูร้อนนั้นบนเทือกเขาในอาร์เมเนีย น้ำจะพัดเอาโคลน ตม ตะกอนมาทับชายฝั่งทั้งสอง จึงทำให้พื้นดินมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก
ปัจจัยที่เอื้ออำนวยที่ทำให้เกิดอารยธรรมของเมโสโปเตเมีย
อารยธรรมศิลปะเมโสโปเตเมีย มีความคิดสร้างสรรค์ และปรับปรุงสืบทอดในอารยธรรมของ 6 กลุ่มชนคือ
- สุเมเรียน (Sumerians)
- อัคคาเดียน (Akkadians)
- อะมอไรท์ หรือ บาบิโลน (Amorites)
- คัสไซท์ (Kassite)
- อัสซีเรียน (Assyrians)
- แคลเดียน (Chaldeans)
โดยแม่น้ำไทกรีส และยูเฟรตีสนั้น ทำให้เมโสโปเตเมียมีความชุ่มชิ้นจึงเกิดการรวมตัวของกลุ่มชน และทำให้เกิดอารยธรรมเฉพาะขึ้น และพรมแดนธรรมชาติก็ยังมีส่วนช่วยเป็นกำแพงป้องกันศัตรูจากภายนอก ถึงแม้จะไม่ดีเท่าแถบลุ่มน้ำไนล์ก็ตาม แต่ก็ยังสามารถเอื้ออำนวยให้กลุ่มชน ซึ่งมีการผลัดกันขึ้นมามีบทบาทใน เมโสโปเตเมีย และยังสามารถใช้ประโยชน์ของพรมแดนธรรมชาตินี้ถือกำเนิด อารยธรรมของเมโสโปเตเมียขึ้นอีกด้วย

ศิลปกรรมในยุคของเมโสโปเตเมีย
ศิลปะเมโสโปเตเมียคือ การประดิษฐอักษรคูนิฟร์ม หรืออักษรลิ่มบนแผ่นดินเหนียว ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ต้นกก หรือไม้เขียนลงบนแผ่นดินเหนียว และกดเป็นรูปลิ่มอักษร ผลงานจึงถูกเรียกว่า “คูนิฟอร์ม” แล้วก็ทำการนำไปผึ่งตากแดด หรือทำการเผาไฟให้แห้ง
ประติมากรรมของกลุ่มชนอัสซีเรีย ในยุคเมโสโปเตเมีย
ศิลปะเมโสโปเตเมียประติมากรรม ซึ่งลักษณะที่สำคัญของประติมากรรมอัสซีเรียนั้นจะเป็นรูปแบบที่เหมือนจริงมีความละเอียด แสดงให้เห็นถึงกล้ามเนื้อ เส้นเลือด ของรูปคน หรือสัตว์ โดยจะเน้นให้เห็นอย่างเด่นชัดทำให้รู้สึกถึงความแข็งแร็ง หนักแน่น และการแสดงถึงอารมณ์ ความรู้สึกที่ทำได้ออกมาอย่างสมบูรณ์

ประติมากรรมนูนสูง ลามาสสุ (Lamassu) หรือรูปวัวมีปีกที่มีส่วนหัวเป็นคน ขนาดของผลงานชิ้นนี้สูงถึง 16 ฟุต

ประติมากรรมนูนต่ำ รูปสิงโตที่กำลังนอนบาดเจ็บ (A wounded lioness)

ประติมากรรมนูนต่ำ รูปกษัตริย์ อิสซูมานิบาล กำลังทำการล่าสิ่งโต

ประติมากรรมลอยตัว สิงโตกัดเด็กหนุ่ม มีขนาดสูง 10 เซนติเมตร ทำขึ้นด้วยการแกะสลักบนงาช้าง ซึ่งถูกค้านพบได้ในพระราชวัง ที่เมืองนิมรุด
สถาปัตยกรรมที่สำคัญของยุคเมโสโปเตเมีย

ศิลปะเมโสโปเตเมียสถาปัตยกรรม ในสมัยเนบูคัดเนซซาร์ได้มีการสร้างกำแพงล้อมรอบบาบิโลนเอาไว้ โดยมีประตูหลวงที่มีชื่อเรียกว่า ประตูอิชตาร์ (The lshtar gate) ซึ่งปรตูนี้มีขนาดที่สูงถึง 47 ฟุต สร้างมาจากวัสดุประเภทออิฐ และมีการเคลือบสีสวยงาม มีการแกะสลักเป็นภาพสัตว์ประหลาด ที่มีชื่อเรียกว่า กริฟิน (Griffin) และนอกจากนี้ก็ยังมีลวดลายสัตว์ต่างๆ อาทิเช่น ม้า สิงโต วัว มังกร ประดับอยู่ทั่วๆ เป็นระยะๆ โดยในปัจจุบันกำแพงนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์เบอร์ลิน ที่ประเทศเยอรมัน

ซิกูแรต (Ziggurat) สถาปัตยกรรมที่เป็นสิ่งก่อสร้างของชาวสุเมเรียน ในแถบดินแดนเมโสโปเตเมีย ซึ่งสถาปัตยกรรมซิกูแรตนี้จะมีลักษณะคล้ายกับพีระมิด แต่จะไม่มีการก่อให้สูงจนเป็นยอดแหลมที่เหมือนกับของชาวอียิปต์ โดยด้านบนของซิกูแรตนั้นจะเป็นพื้นที่ราบกว้าง และสร้างขึ้นเป็นวิหารด้านบน ในระยะแรกนั้นการสร้างสถาปัตยกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนา แต่ต่อมาก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังของกษัตริย์แทน

สวนลอยบาบิโลน (The hanging garden of babylon) สวนลอยบาบิโลนแห่งนี้ ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก โดยมีที่ตั้งอยู่แม่น้ำยูเฟรติส ในประเทศอิรักในปัจจุบัน ซึ่งสถาปัตยกรรมแห่งนี้สร้างโดยกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ที่ 3 แห่งกรุงบาบิโลเนีย โดยสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 600 ปีก่อน ค.ศ. มีขนาดที่สูงประมาณ 75 ฟุต มีพื้นที่ 400 ตารางฟุต และระเบียงทุกชั้นนั้นยังได้รับการตกแต่งด้วยไม้ดอก ไม้ประดับ และดอกไม้ชนิดต่างๆ มากมาย และสวนนี้ได้พังทลายไปแล้วจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อหลังศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช

ห้องสมุดดินเหนียว เป็นห้องสมุดที่มีการถูกค้นพบในดินแดนของเมโสโปเตเมีย ได้แก่แถบลุ่มน้ำไทกรีส และยูเฟรคีส ซึ่งในปัจจุบันคือประเทศอิรีก ชนชาติต่างๆ ในแถบนี้คือชาวสุเมเรียน บาบิโลเนียน และชาวัสซีเรียนได้รู้จักกับการบันทุกเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของตนลงบนแผ่นดินเหนียว

เครื่องประดับของเมโสโปเตเมีย
ศิลปะเมโสโปเตเมียจิตกรรม จะมีผลงานทางด้านเครื่องประดับที่มีความงดงามและความน่าสนใจอยู่ และถูกค้นพบที่สุสานของราชวงศ์กษัตริย์ มีเครื่องประดับเป็นใบไม้ และดอกไม้ เป็นงานออกแบบเพื่อการตกแต่งสวยงาม เป็นผลงานที่มีความประณีตสูง ศิลปะยุคเมโสโปเตเมีย โดยส่วนมากจะผลิตเครื่องประดับโดยใช้เทคนิคการเคาะ ทุบ ด้วยค้อนในการขึ้นรูปทรง และจะใช้ตะปูหัวแบบต่างๆ มาตกแต่งรายละเอียดให้เกิดความสวยงามตามที่ได้เห็น
ติดตามยุคของศิลปะอื่นๆ ได้ที่ : ศิลปะอียิปต์
อ่านบทความเกี่ยวกับศิลปะเพิ่มเติมได้ที่ : https://artisworlds.com/