
ศิลปะ ความหมายของศิลปะ
ศิลปะ หมายถึงการสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่ผ่านกระบวนการทางความคิด และแสดงออกมาในรูปแบบของลักษณะต่างๆ ให้มีความสุนทรียภาพ ความประทับใจ และการสะเทือนอารมณ์ ตามประสบการณ์ของช่วงอายุ รสนิยม และทักษะของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ งานศิลปะ ยังสามารถเกิดขึ้นตามแบบของธรรมชาติเองโดยที่ไม่ต้องจัดเสริม ปรุงแต่งอะไรแต่เกิดเป็นความงามก็ย่อมมี แต่ ควาหมายของศิลปะ คือการแสดงออกของบุลคิกภาพทางอารมณ์ ความรู้สึก และการเรียนแบบธรรมชาติ ซึ่งการแสดงออกของแต่ผลงานในด้านต่างๆ นั้น จะได้เห็นกันว่าผลงานที่เรียกว่าเป็น การทำงานศิลปะ จะมีทัศนคติทางความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ที่แตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัดเจน ศิลปะคืออะไร โดยเป็นคำที่มีความหมายที่กว้าง และเป็นที่คำที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละยุค แต่ละสมัยที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นแล้วความหมายของคำว่า ศิลปะ นั้นจึงสามารถที่จะพูด และอธิยายออกมาได้อย่างหลากหลายรูปแบบอย่างไม่มีสิ้นสุด
ประเภทของศิลปะ
การ สร้างงานศิลปะ นั้นมีอยู่ 2 ประเภทหลักใหญ่ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ความชอบของตัวบุคคลว่า ชื่นชอบในการผลิต หรือสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบไหน โดยจะแบ่งออกเป็นดังนี้
- วิจิตร์ศิลป์
- ประยุกต์ศิลป์
ศิลปะทั้ง 2 ประเภทนี้ที่นำมาให้ได้รู้จักทุกท่านจะได้รู้ถึงความแตกต่าง และเราจะแบ่งเป็นหัวข้อย่อยๆ พร้อมทั้งคำอธิบายให้ได้รู้ว่า ประเภทของศิลปะ แต่ละรูปแบบแตกต่างกันออกไปอย่างไร ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีก่อนที่จะศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปต่อยอดให้กับตัวเองได้นั่นเอง
- วิจิตรศิลป์ เป็นรูปแบบของ ศิลปะการวาดภาพ ที่มุ่งเน้นไปทางด้านของความงดงาม ความพึงพอใจ ซึ่งการถ่ายถอดที่ออกมาอาจจะนำไปใช้ประโยชน์ได้ หรือไม่ก็ตาม เป็นการถ่ายทอดผ่านความคิด ความรู้สึก ในช่วงนั้นๆ ซึ่งสามารถที่จะแบ่งได้ 5 ประเภท ได้แก่

- จิตกรรม คือการเขียนภาพลงไปบนวัตถุต่างๆ ซึ่งเป็นความงามแบบ 2 มิติ

- ประติมากรรม คือการสร้างผลงานรูปทรง 3 มิติ ยกตัวอย่างเช่น งานปั้นที่เห็นด้านกว้าง ยาว หนา งานแกะสลัก และการหล่อ

- สถาปัตยกรรม คืองานศิลปะที่สร้างสรรค์ออกมาอยู่บนสิ่งก่อสร้าง หรืออารคารแบบต่างๆ ให้มีความงามตามยุคสมัย

- วรรณกรรม คืองานเขียนบทประพันธ์ต่างๆ ที่มีการใช้คำพูดที่เป็นศิลปะในการใช้ภาษาให้สวยงาม และไพเราะ

- นาฏศิลป์ และดุริยางคศิลป์ คือศิลปะที่แสดงออกจากท่าทาง และทางเสียงที่มีจังหวะ
- ประยุกต์ศิลป์ หรือเรียกได้อีกอย่างว่า ศิลปะประยุกต์ เป็นการถ่ายทอดผลงานของศิลปะที่มุ่งไปทางประโยชน์ในด้านการนำไปใช้งานบนร่างกายได้จริงเป็นหลัก และเน้นไปที่ความสวยงามเป็นรอง ซึ่งสามารถที่จะแบ่งออกมาเป็น 4 ประเภท

- พาณิชย์ศิลป์ คือศิลปะที่สร้างเพื่อธุรกิจ ที่สร้างความสวยงามให้มีความตื้นเต้น และดึงดูด โดยหวังผลตอบแทนในทางการค้าขาย

- มัณฑนศิลป์ คือศิลปะที่เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งภายในให้เกิดความสวยงาม และสอดคล้องกับการใช้งานให้เกิดประโยชน์กับอาคารภายใน

- อุตสหากรรมศิลป์ คืองานศิลปะที่มุ่งเน้นไปที่ประโยชน์การให้สอย และความสวยงาม ที่สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์ โดยการใช้เครื่องจักรในการผลิต หรือสร้างออกมา

- ศิลปหัตถกรรม หรือ หัตถศิลป์ คือศิลปะที่สร้างสรรค์ผลงานด้วยมือ เป็นการทำงานแบบประเพณี หรือวิถีชีวิตพื้นบ้านที่นำไปสู่ความเป็นเอกลักษณ์ที่มีคุณค่าของแต่ละพื้นที่
ทำไมมนุษย์เราถึงต้องเรียนรู้เรื่องของ องค์ประกอบศิลป์
การที่มนุษย์เรานั้นต้องเรียนรู้ในเรื่องขององค์ประกอบศิลป์นั้น คือจะทำให้สามารถมองภาพรวม การจัดวาง หรือการใช้ชีวิตประจำวันให้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการนำเอาส่วนประกอบต่างๆ ของทัศนธาตุต่างๆ อาทิเช่น จุด เส้น รูปทรง ขนาด สัดส่วน สี แสงเงา ช่องว่าง และลักษณะของพื้นผิว นำมาจัดรวมสร้างให้เกิดความเหมาะสมของผลงาน ศิลปะในความคิดของฉัน ได้ ดังนั้นแล้วการที่ทุกคนนั้นต้องเรียนรู้ในเรื่องขององค์ประกอบศิลป์จึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างสรรค์ผลงาน ให้เกิดความงามที่ลงตัวในทุกๆ แขนงของการสร้างสรรค์เพื่อให้เกิด ประโยชน์ของศิลปะ ที่มีความน่าพึงพอใจได้มากที่สุด
เรียนศิลปะแล้วได้อะไรกลับมาบ้าง ?
ในยุคสมัยนี้คำว่า งานศิลปะหมายถึง อะไร? ซึ่งล้วนแล้วก็เป็นสิ่งให้คำตอบตรงๆ ตัวได้ยาก เพราะทุกๆ คนนั้นล้วนแต่มีศิลปะอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว และอีกทั้งยังไม่มีคำว่าถูก หรือผิดอีกด้วยมีแค่เพียงคำว่า ชอบหรือไม่ชอบเท่านั้น และหากคนที่สนใจจะเริ่มเรียนรู้ในเรื่องของศิลปะ เรามาดูประโยชน์ที่ได้จากการเรียนรู้กันว่า เมื่อเราเรียน และศึกษาแล้วจะได้อะไรบ้าง
- สร้างความเพลิดเพลิน
การเรียนรู้ในเรื่องของ วิชาศิลปะ นั้นไม่ว่าจะอยุ่ในช่วงวัยอายุเท่าใด การใช้ศิลปะเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตจะช่วยให้สร้างความเพลิดเพลิน และสร้างความสุนทรีย์ให้แก่ทุกคนในการชีวิตให้ดียิ่งขึ้น การเรียนศิลปะจึงทำให้ผู้ที่ศึกษา และเรียนรู้ได้ปลดปล่อยจินตนาการได้โดยอิสระอย่างไร้ขอบเขต
- ทำให้มีสมาธิเพิ่มมากขึ้น
การทำงานศิลปะแต่ละชิ้นออกมานั้น ผู้สร้างสรรค์จะได้สนุกกับการทำงานแต่ละชิ้นออกมา และแน่นอนต้องใช้ความอดทนที่สูงเป็นอย่างมากทำให้มีการโฟกัสกับการทำงานที่ต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมาก เป็นการฝึกสมาธิที่ดีอีกหนึ่งรูปแบบ ทำให้สามารถอยู่กับสิ่งที่ทำได้นานยิ่งขึ้น
- พัฒนาสมองให้มีความคิดที่แปลกใหม่ และพัฒนาเรื่องของจินตนาการ
การฝึกฝนทักษะในด้านของงาน ศิลปะ นั้นเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยจินตนาการเป็นสิ่งสำคัญ เพราะต้องรู้ว่าการที่จะวาดรูป หรือขีดเส้น จะมีวิธีการทำยังไงให้สวย นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าจะทำยังไงให้ผลงานของเรานั้นมีความแตกต่างไปจากของผู้อื่น การเรียนรู้ และฝึกลงมือทำอย่างต่อเนื่องจึงเป็นการพัฒนาจินตนาการของตัวเราเองได้ดีมากยิ่งขึ้น
- ลดความเครียดได้
การทำงานศิลปะไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหนก็สามารถที่จะลดความเครียดได้ ผ่านงานศิลปะของตัวเราเอง สามารถทำหลากหลายอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเวลาโกรธที่เปลี่ยนแนวงานไปในทางที่รุนแรง หรือสะท้อนสังคม ซึ่งในบางทีการทำงานในรูปแบบนี้ก็อาจทำให้เกิดความคลายเคลียด ลดความตึงของตัวเองลงได้เยอะ ทำให้สามารถกลับมาโฟกัสกับงานที่กำลังทำได้ดีมากกว่าเดิม
- ฝึกทักษะของตัวเองให้มีความชำนาญยิ่งขึ้น
สำหรับบางคนที่เริ่มมีความชำนาญในการทำงาน ศิลปะ บางประเภทแล้ว แต่อยากจะศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของด้านอื่นๆ ซึ่งในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะฝึกฝนทักษะในด้านที่อยากทำ หรือไม่ถนัดให้สามารถเก่งเพิ่มเติมได้ดีอีกด้วย
บทสรุปของความหมายคำว่าศิลปะ และการเรียนรู้จากศิลปะ
คำว่า ศิลปะ นั้นอยู่รอบตัวของเราเสมอ การศึกษาเรียนรู้ของศิลปะนั้นไม่ได้อยู่เพียงแค่ภายในห้องเรียน เพราะทุกคนนั้นสามารถที่จะออกมาหาประสบการณ์ หรือศึกษาเรียนรู้คำว่า ศิลปะ ได้ในทุกๆ ที่ ทั้งประสบการณ์ที่ได้เจอกับตัวเองโดยตรง สิ่งสำคัญคืออย่าไปคิดว่าสิ่งที่เราได้เรียนรู้มานั้นคือสูงที่สุดแล้ว เพราะคำว่าศิลปะนั้น ไม่มีคำว่าสิ้นสุด สามารถเรียนรู้ และสร้างจินตนาการได้จนวันตาย ซึ่งการเรียนรู้ในทุกๆ วันจะทำให้สามารถนพมาใช้กับชีวิตของเราได้ด้วย ไม่ใช่แค่เพียงการเสพศิลปะ หรือเพียงแค่การทำงานศิลปะเท่านั้น